วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

ส่วนประกอบหลักของคำสั่งต่างๆ ส่วนที่ 1 Main Window File สำหรับทำงานกับไฟล์รูปแบบต่างๆ Add สำหรับเพิ่มหรือสร้างวัตถุในงาน 3มิติ Timeline สำหรับใช้สร้างการเคลื่อนไหว Game สำหรับสร้างเกมหรือทำงานเกี่ยวกับเกม Render สำหรับควบคุมประมวลชิ้นงาน Help รวบรวมวิธีการใช้งาน ส่วนของ Screen selector เป็นโหมดที่แสดงรูปแบบของหน้าจอในการทำงาน ซึ่งเป็นรูปแบบสำเร็จรูปที่โปรแกรมจัดเตรียมไว้ให้เลือกใช้ โดยเราจะเลือกให้เหมาะสมกับการทำงานเพื่ออำนวยความสะดวก สำหรับ Scene selector ใช้สำหรับเลือกซีนหรือฉากที่เราทำงานเนื่องจากไฟล์ชิ้นงานอาจมีหลายซีนเพื่อความสะดวกในการนำชิ้นงานมาทำงานร่วมกัน ส่วนของ Information เป็นส่วนที่แสดงรายละเอียดของการทำงานในซีน ที่เราเห็นอยู่นั้นจะแสดงตามการทำงานของเราในขณะนี้ Ve: จำนวนจุด (Vertex) ที่มีในวิวพอร์ต ดังตัวอย่าง Ve:8 หมายความว่ามีจุด Vertex ที่เป็นส่วนประกอบของวัตถุในวิวพอร์ตอยู่ 8 จุด Fa: จำนวนพื้นผิว (Face) ที่มีในวิวพอร์ต ดังตัวอย่าง Fa:6 หมายความว่ามีพื้นผิวที่เป็นส่วนประกอบของวัตถุในวิวพอร์ตอยู่ 6 พื้นผิว Ob: จำนวนวัตถุที่มีในวิวพอร์ต ดังตัวอย่างมีค่า Ob:3-1 หมายความว่าในวิวพอร์ตมีวัตถุอยู่ทั้งหมด 3 ชิ้น และกำลังถูกเลือกอยู่ 1 ชิ้น La: จำนวนของแสงที่มีในวิวพอร์ต ดังตัวอย่าง La:1 หมายความว่าในวิวพอร์ตมีแสงอยู่ 1 ดวง ส่วนที่ 2 View port
เป็นส่วนสำคัญในการสร้างชิ้นงานทั้งการสร้างโมเดล ทำแอนิเมชั่น และการทำงานทุกๆอย่าง ส่วนของวิวพอร์ตสำหรับสร้างชิ้นงาน ส่วนที่ 3 Buttons Window เป็นส่วนที่รวบรวมเครื่องมือในการทำงานเอาไว้โดยอ้างอิงกับวัตถุที่เราเลือกในขณะนั้น
ส่วน Buttons window ที่รวบรวมเครื่องมือในการทำงาน การจัดการกับมุมมอง เราสามารถควบคุมพิ้นที่ในการทำงานของเราด้วยเม้าส์ และแป้นคีย์บอร์ด เพื่อให้สะดวกในการทำงานมากขึ้น Scroll up = zoom in Scroll down = zoom out Middle = หมุนมุมมองตามการเคลื่อนที่ของเม้าส์ Shift + Scroll up = เลื่อนภาพขึ้น Shift + Scroll down = เลื่อนภาพลง Ctrl + Scroll up = เลื่อนภาพไปทางขวา Ctrl + Scroll down = เลื่อนภาพไปทางซ้าย การใช้งานโปรแกรม Blender ผมจะอธิบายการใช้งานของโปรแกรมโดยจะสร้างเป็นผลงานของผมเองหลังจากที่ได้ศึกษาโปรแกรมมาพอสมควร ผมสร้างเป็นโมเดล 3D ที่ผมออกแบบขึ้นมา ทำการเปิดโปรแกรม Blender ขึ้นมาครับ หลังจากเปิดโปรแกรมขึ้นมาแล้วก็ กดTabเพื่อเข้าสู่โหมด Edit แล้วก็ทำการลบ Plane โดยกดปุ่ม Delete ที่คีย์บอร์ด แล้วก็ เลือกที่ Vertices แล้วกด Enter
จากนั้นคลิกที่ View แล้วเลือก Front หรือกดที่เลข 1 บนคีย์บอร์ด
ขั้นตอนต่อไป ก็จะเป็นการร่างโมเดล ให้กด Ctrl + คลิกซ้าย เพื่อทำการร่าง ร่างได้ตามอิสระของเรา
หลังจากนั้นก็คลิกขวาที่จุดสุดท้าย และจุดเริ่มต้น แล้วก็กด Space bar เลือกที่ Transform < Properties หรือกด N ที่คีย์บอร์ด กด Shift ค้าง แล้วก็เปลี่ยนค่าตรงแกน x ให้เป็น 0 แล้วก็กด Enter ทำเหมือนกันทั้งจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด
เมื่อทำตามขั้นตอนที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว ก็กดเลือกทั้งหมด โดยกด A ที่คีย์บอร์ด
ตั้ง View ไว้ที่ Top หรือกด 7 ที่คีย์บอร์ด
เมื่อได้มุมมอง Top ที่เราต้องการแล้ว ก็ทำการปรับค่าที่ Mesh Tools ในส่วนของ Buttons window
เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้ว ก็คลิกที่ Spin
เมื่อเรากด Spin แล้วก็จะได้งานของเราอยู่ในรูปแบบ 3D
เราสามารถปรับความละเอียดของตัวงานได้โดยเข้าไปที่ Add Modifiers < Subsurf แล้วก็ปรับที่ Level เมื่อเราทำตามขั้นตอนเสร็จทุกอย่างแล้วก็สามารถดูงานจริงได้ที่ กด F12

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555

ออกแบบภาชนะทรงแก้ว ได้อย่างชำนาญ ขั้นตอนการออกแบบ 1. คลิกเมาส์ที่ (New Design ) เพื่อออกแบบชิ้นงานใหม่ ...... 2. ใช้มุมมองแบบ View Onto Workplane เพื่อความสะดวกในการวาดโครงร่าง ...... 3. ใช้เครื่องมือเส้นตรงและเส้นโค้ง หรือเส้นดัด ประกอบกัน ตัดส่วนที่ไม่ต้องการออกจะเกิดสีเติมบนพื้นที่ (fill) ......... 4. คลิกเลือกด้านที่ต้องการเป็นแกนหมุน ในที่นี้คลิกเส้นด้านซ้าย จะสังเกตเห็นเป็นเส้นสีแดงเมื่อถูกเลือก
...... 5. จากเมนู Feature เลือกคำสั่ง Revolve Profile หรือ คลิกเครื่องมือ บนแถบเครื่องมือ Feature
6.คลิกปุ่ม OK หรือกดแป้น Enter จะได้รูปทรงดังภาพ
7. คลิกเลือก Select Face ส่วนปากแก้ว เลือกเครื่องมือ Round Edges เพื่อลบเหลี่ยมให้กลมมน
8. คลิกเลือก Select Face เลือกส่วนขาแก้ว เลือกเครื่องมือ Round Edges เพื่อลบเหลี่ยมให้กลมมน
9. กด OK จะได้แก้วดังภาพ

วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555

http://women.kapook.com/wedding00144/
ความหมายของดอกไม้ชนิดต่างๆ ++ กุหลาบ กุหลาบแดงและขาวรวมกัน : ดอกไม้สำหรับสื่อความหมายให้รู้ว่า “สองเราเป็นหนึ่งเดียวกัน” กุหลาบสีชมพู : ดอกไม้สำหรับความงดงามและความอ่อนโยน กุหลาบสีเหลือง : เป็นดอกไม้ที่บอกเป็นนัยว่า “ขอเป็นชู้ทางใจ” หรือ หมายถึงความสุข สนุกสนาน ร่าเริง กุหลาบสีส้ม : ดอกไม้เพื่อบอกความในใจถึงความรักและสิ่งที่ผ่านมา กุหลาบแดงเข้ม (สีเหมือนไวน์แดง) : แทนคำว่า “เธอช่างสวยเหลือเกิน” กุหลาบสีขาว : ดอกไม้สำหรับบอกว่า “ฉันรักเธอด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน” กุหลาบตูมที่มีทั้งใบและหนาม : เป็นดอกไม้ที่บอกให้รู้ว่า “แม้ฉันจะวิตกอยู่บ้าง แต่รู้ว่าเธอคงไม่ปฎิเสธ” กุหลาบตูมที่ริดใบทิ้งหมด : ดอกไม้ที่แสดงให้เห็นว่าผู้ให้รู้สึกทุกสิ่งทุกอย่าน่ากลัวไปหมด กุหลาบตูมที่ริดหนามทิ้งหมด : ดอกไม้ที่แสดงให้เห็นถึงความหวังที่มีอย่างเปี่ยมล้น กุหลาบตูมสีแดง : ดอกไม้ที่แสดงให้เห็นถึงความรักที่ไร้เดียงสา “รักของฉันเพิ่งแรกแย้ม และอ่อนต่อโลก” กุหลาบตูมสีขาว : ดอกไม้ที่แสดงถึงความมีเสน่ห์น่าหลงใหล ไร้เดียงสาในเรื่องความรัก กุหลาบบานหนึ่งดอก และกุหลาบตูม 2 ดอก : เป็นดอกไม้ที่บอกว่า “นี่คือความรักที่ฉันแอบซ่อนไว้” กุหลาบบานสีแดง : ดอกไม้สำหรับบอกให้รู้ว่า “ฉันรักเธอเข้าแล้ว” กุหลาบสีแดงที่โรยแล้ว : เป็นดอกไม้ที่เขาอยากจะบอกให้คุณรู้ว่า “ความรักของเรานั้นจบลงแล้ว” กุหลาบสีขาวที่โรยแล้ว : ดอกไม้สำหรับแทนความหมาย “เสน่ห์ของเธอมันจืดจางลงแล้ว” กุหลาบไร้หนาม : เป็นดอกไม้ที่สื่อให้รู้ว่า “เธอช่างมีเสน่ห์น่าหลงไหลแม้ยามแรกพบ” กุหลาบดอกเดียว : ดอกไม้สำหรับแทนความหมาย “รักฉันแม้เรียบง่าย แต่ก็มั่นคงกับเธอผู้เดียว” ++ คาร์เนชั่น คาร์เนชั่น สีแดง : เป็นดอกไม้ที่สื่อว่า “เห็นใจในความรักของฉันที่มีต่อเธอบ้าง” เป็นลูกออดอ้อนให้ใจอ่อน สีชมพูหวาน : เป็นดอกไม้ที่สื่อว่า “ความรักของฉันกำลังจะผลิบาน โปรดถนอมหัวใจรักฉันด้วย” คาร์เนชั่นลาย : ดอกไม้สำหรับปฏิเสธใครที่มาตามตื้อ ต้องรีบส่งไปเพราะมันหมายถึง “ไม่ได้คิดอะไรด้วยเลย” คาร์เนชั่นที่ถูกดึงกลีบดอกออกไป : เป็นดอกไม้สำหรับการปฏิเสธความรักโดยสิ้นเชิง ประมาณว่า “ฉันไม่เคยคิดรักเธอเลย” ++ ทิวลิป ทิวลิป เป็นดอกไม้ที่หมายถึงการตกหลุมรักหัวปักหัวปำ ความรักที่ฉาบฉวยและจึดจางอย่างรวดเร็ว ทิวลิปสีแดง : ดอกไม้ที่สื่อว่า “อยากให้โลกรู้ว่าฉันรักเธอ” ทิวลิปสีเหลือง : ดอกไม้ที่สื่อว่า มีหางเสียงเศร้าๆ ว่า “ฉันหมดหวังในรักเธอแล้วหรือไร” ทิวลิปหลากสีในช่อเดียวกัน : ดอกไม้ที่หมายความว่า “ดวงตาแสนสวยของเธอทำให้ฉันคลั่งไคล้” ++ ดอกลิลลี่ ดอกลิลลี่ เป็นดอกไม้ที่แทนความรักอ่อนหวาน บริสุทธิ์ อ่อนไหวต่อโลก “เธอเป็นรักแรกของฉันนะ คนดี” ++ ดอกไอวี่ ดอกไอวี่ เป็นดอกไม้ที่เป็นตัวแทนแห่งความซื่อสัตย์และมั่นคงในรัก แต่ถ้าหนุ่มคนไหนต้องการขอสาวแต่งงานลองส่งดอก ไอวี่แทนใจก็ได้ เพราะอีกนัยหนึ่ง หมายถึงการแต่งงาน ++ ดอกมะลิ ดอกไม้ที่เป็นตัวแทนความบริสุทธิ์ ผุดผ่อง และอ่อนโยน มะลิ แทนความหมาย “เธอคือผู้ที่ฉันสุดรักสุดบูชา” หรือ “เธอคือดอกฟ้าผู้สง่างามและสูงส่ง” ++ กล้วยไม้ เป็นดอกไม้ที่ไว้บอกภาษารักว่า “ฉันไม่อาจห้ามใจให้คิดถึงเธอได้” ++ ดอกหญ้า คือดอกไม้ที่ใช้สื่อความรักที่เปี่ยมด้วยอิสระ แทนความว่า “ฉันรักเธอ แต่ขอเธออย่าผูกมัดฉันเลยนะคนดี” ++ ดอกบัว เป็นดอกไม้แทนความสงบและความบริสุทธิ์ใจ จึงเป็น “รักด้วยความศรัทธาและชื่นชม” ++ ดอกแกลดิโอลัส เป็นดอกไม้ที่สมควรส่งให้สาวที่เข้มแข็ง และมีความมั่นใจ เพราะแทนคำว่า “เธอช่างเป็นสาวมั่นจริงๆนะ” และยังเหมาะที่จะใช้เป็นดอกไม้แสดงความยินดี แทนคำว่า “ยินดีด้วยสำหรับความสำเร็จ ครั้งนี้” ++ ดอกทานตะวัน ดอกไม้ที่แทนสัญญลักษณ์ของความเชื่อมั่น ความมั่นคง รักเดียวใจเดียว และมีนัยถึงศิลปะที่งดงาม ถ้าได้รับดอกทานตะวันเหมือนได้รับสารว่า “แม้เธอจะเย่อหยิ่งเพียงไร แต่สักวันฉันจะชนะใจเธอ” และยังหมายถึง “รักของฉันมั่นคงและภักดีต่อเธอเสมอ ดุจดั่งทานตะวันที่ไม่เคยหันมองผู้ใดนอกจากดวงอาทิตย์” ++ แดฟโฟดิล เป็นดอกไม้ที่เหมาะสำหรับความรักของเพื่อนแท้ คนรู้ใจ เพราะส่งแดฟโฟดิลเหมือนบอกว่า “น้ำใจไมตรี และความเอื้ออาทรของเธอ สมแลัวกับที่เป็นเพื่อนรักที่แสนดีของฉัน” ++ ดอกซ่อนกลิ่น ดอกไม้สำหรับคนที่มีรักซ้อนซ่อนใจ ไม่อาจเปิดเผย “ฉันแอบรักเธออยู่นะ” หรือ “ฉันหยิ่งเกินกว่าจะเอ่ยปากบอกรักกับเธอก่อน” ++ ดอก Lilac ดอกไม้สำหรับการส่งให้กับความรักครั้งแรก ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
http://www.welovecnblue.com/